น้องแมวป่วยเป็นดีซ่าน หรือ ตับอักเสบ ควรทำอย่างไร
เมื่อแมวเป็นโรคตับอาการดีซ่านจะปรากฏตามมา อาการที่พบในน้องแมวคือ เหงือกเหลือง จมูกเหลือง ผิวต่างๆเปลี่ยนสีไป อาการที่ว่าพบได้บ่อยก็จริง แต่ไม่ใช่ทุกรายที่เป็นโรคตับแล้วต้องเป็นดีซ่านเสมอไป ตับทำหน้าที่เปลี่ยนสารบินลิรูบินในรูปที่ไม่ละลายในน้ำอยู่สามารถละลายน้ำได้ จากนั้นส่งต่อไปยัง ท่อเล็กๆเพื่อส่งไปสู่ถุงน้ำดีอีกทอดหนึ่ง เมื่อตับมันทำหน้าที่บกพร่องการสะสมของบินลิรูบินย่อมเกิดขึ้นที่ตับได้ เพราะการแตกตัวของเม็ดเลือดแดงเกิดตลอดขึ้นเวลา ถ้าตับไม่ทำงานทำให้บินริลูบินคั่งจนเกิดอาการดีซ่านได้
อาการของน้องแมว ที่เป็นดีซ่าน
อาการป่วยเป็นโรคนี้ สามารถเกิดได้ทุกช่วงวัย อาการของโรคนี้ไม่มีความเฉพาะเจาะจง อาการที่พบได้ตั้งแต่เบื่ออาหาร ซึม น้ำหนักลด ตัวเหลือง อาเจียน ถ่ายเหลว สาเหตุนั้นเกิดได้จากหลายอย่าง เช่น เกิดจากการมีภาวะตับอ่อนอักเสบ ท่อน้ำดีหรือ ถุงน้ำดีอักเสบ ติดเชื้อไวรัส เนื้องอกหรือมีภาวะที่มีการสะสมของไขมันในตับมากจนเกินไป จนทำให้ตับทำงานได้น้อยลงส่งผลให้เกิดโรคตามมา
สาเหตุของโรคดีซ่านในแมวเหมียว
- โรคตับอักเสบในแมว
- โรคตับแข็งทางเดินน้ำดี
- ไขมันในตับ
- ความผิดปกติของหลอดเลือด
การรักษาน้องแมวเป็นดีซ่าน
การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุเป็นอย่างมากซึ่งต้องคำนึงถึงว่ามีหลายโรคที่มีอาการตัวเหลือง อาจเป็นอะไรก็ได้ตั้งแต่การทานยาปฏิชีวนะไปจนถึงการปรับเปลี่ยนอาหาร. ในแมวที่ป่วยเป็นโรคนี้จะไม่ค่อยทานอาหารดังนั้นจึงต้องให้น้ำเกลือ เพื่อให้น้องแมวได้รับสารอาหารและตัวยาเพื่อรักษาอาการ สิ่งที่คุณไม่สามารถทำได้คือรักษาด้วยตัวเองโดยไม่ไปพบสัตว์แพทย์เพราะการที่รักษาด้วยตนเองอาจจะส่งผลต่อชีวิตน้องแมวก็เป็นได้
การดูแลน้องแมวเป็นดีซ่านระยะยาว
น้องแมวที่ตับวาย ควรควบคุมอาหาร โดยให้กินอาหารสัตว์ป่วยโรคตับ ร่วมกับการกินยาบำรุงตับควบคู่กันไป กับการกินยา และควรทานยาอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่การรักษาของโรคได้หายขาด
การตรวจรักษาน้องแมวเป็นดีซ่าน
การตรวจน้องแมวโรคดีซ่านหรือตับอักเสบ จำเป็นต้องมีการเจาะเลือด เก็บปัสสาวะตรวจ และอาจต้องตรวจโดยใช้การเอกซเรย์ หรืออัลตราซาวนด์ เพราะถ้าเกิดปัญหาในตับ ระบบท่อน้ำดี การมองภาพผ่านจากเครื่องมือดังกล่าวย่อมช่วยในการวินิจฉัยโรคของน้องแมวได้ง่ายขึ้น
เมื่อพาน้องแมวไปพบสัตวแพทย์แล้วการดูแลด้วยความรักความเอาใจใส่และคอยสังเกตุพฤติกรรมต่างๆของน้องแมวที่เปลี่ยนแปลงไปหรือผิดปกติได้โดยเร็ว ก็จะรักษาน้องแมวที่ป่วยได้ทันท่วงที นอกจากนี้ควรเลือกอาหารที่เหมาะสมกับน้องแมวอีกด้วย เพื่อลดพฤติกรรมเสี่ยงของอาการป่วยต่างๆในน้องแมว